Page 88 - 13 STORIES เรื่องเล่าที่อยากบอก ภารกิจสื่อเกาะติดปฏิบัติการช่วยเหลือ 13 ชีวิตติดถ้ำหลวง

การประสานงานและการสื่อสารข้อมูล ที่พยายามจะช่วยกันมีใครบ้าง ก็น�าเสนอแบบมีความหวัง

ี
ั
�
ในช่วงนั้นเป็นอย่างไร? จะเป็นโจทย์ท่เราต้งเอาไว้ทุกวันจะทายังไงให้ดูแล้วมัน
ไม่หดหู่และเราเช่อว่าทุกคนก็ยังมีความกังวลว่าจะเจอ
ื
พรวดี: การท�างานของพี่กับจ๊อด ก็คล้ายๆ กัน แต่จะ ไหม ต่อมาก็คือเจอแล้วจะมีชีวิตรอดไหมก็ยังไม่ทราบ
ี
แบ่ง section กันชัดเจน แล้วเราก็จะมาแลกเปล่ยนข้อมูล แต่ตราบใดท่ยังไม่หมดความหวัง เราก็ทาต่อก็พยายาม
ี
�
�
ื
ื
ี
�
และทาความเข้าใจเร่องของอีกคนเช่นกัน เช่น ถ้าพ่ทาเร่อง ให้มีความหวังอยู่ตลอดเวลา
น�้า จ๊อดก็จะมาท�าความเข้าใจเรื่องน�้ากับพี่ เพราะว่าเวลา
ี
ื
่
ิ
จัดรายการคู่กันจะได้คุยกันรู้เรื่อง หรือถ้าจ๊อดเตรียมเรื่อง พรวดี: การประสานงานกับทีมในพ้นท เร่มแรกก็ม ี
อะไรไว้ พ่ก็ต้องทาความเข้าใจเร่องน้นด้วย และการทา ทีมข่าว 1-2 ทีมที่อยู่หน้างาน แต่ตอนหลังก็มีพี่โจ (คณิศ
ี
�
ั
�
ื
รายการพิเศษกับคู่ท่เคยอ่านข่าวร่วมกันมาก่อนอยู่แล้ว บุณยพานิช) พี่แวว (ณาตยา แวววีรคุปต์) ลงไปด้วยไปท�า
ี
ี
ั
ี
ึ
่
ึ
มันมีข้อดีตรงท “ความรู้ใจ” เราจะรู้จังหวะข้นลงซ่งกัน เหมือนศูนย์บัญชาการเล็กๆ ท่น่น ก็จะมีทีมข่าวไปอยู่ท ่ ี
้
ู
ี
และกน ถ้าพดแบบนจะสออะไร แต่ว่าเบ้องหลังเราทางาน นั่น มีช่างภาพอย่างพี่อู๊ด (ภาณุมาศ เจนกิจพัฒนะ) ซึ่งเขา
ื
ั
ื
่
�
�
ร่วมกันมา เราแชร์ข้อมูลกัน ช่วงน้นเราทางานร่วมกันมาก ทุ่มเทกับงานมาก mood and tone การท�างานหน้างาน
ั
�
ื
ข้นกว่าเดิม เราใช้ส่อทุกอย่างท่เรามีเพ่อจะกลับบ้านไปแล้ว คือราบร่นมากๆ ส่วนเราประจาการอยู่ข้างในเวลาอยากจะ
ื
ึ
ื
ี
ึ
เราก็ยังรู้ว่าพรุ่งนี้เราควรจะท�าอะไร ได้ข้อมูลอะไรมันก็ง่ายมากข้น เพราะหน้างานเขาจัดสรรได้
ท้งประเด็นได้ทงภาพได้ท้งเร่องราว เราก็สามารถจัดสรร
ั
ั
ั
ื
้
วราวิทย์: ในแต่ละวันเรามีการประชุมกันหนัก เครียด ทรัพยากรที่มีได้ง่าย
เครียดมาก เพราะมันมีประเด็นแวดล้อมเยอะไม่ใช่แค่
ื
ี
ี
ื
�
ื
ค้นหาเด็ก แต่มีข้อมูลด้านวิทยาศาสตร์อ่นๆ เช่น สภาพ การส่อสารในส่วนอ่นๆ ก็เป็นได้ด้วยด พ่จิต (ดารงเกต
ิ
ุ
ิ
์
ู
็
ื
ั
�
ทางกายภาพ สภาพอากาศ การสารวจจุดต่างๆ เป็นต้น ฤทธเรองเดช) ผ้จดการช่างภาพฝ่ายผลต กมาคมงานใน
ึ
่
ิ
่
ิ
ี
เพราะว่าเวลาคนดูข่าวเขาจะยังไม่เข้าใจว่า ต้องสารวจ สตูดโอเอง ซงไม่ใช่แค่การคุมช่างภาพฝ่ายผลตทอยู่ใน
�
�
ี
ทาไม และสารวจตรงไหน เราจึงมีหน้าท่เอาภาพท่เกิดข้น สตูดิโอ แต่เป็นการคุมช่างภาพฝ่ายผลิตที่จับภาพอยู่หน้า
�
ี
ึ
ึ
ี
เหล่าน้นมาปะติดปะต่อว่าวันน้มีอะไรเกิดข้นบ้าง แล้วก ็ งานข้างนอก แล้วก็สามารถบอกคิวให้ผู้ประกาศฟังได้ว่า
ั
�
ี
ึ
ี
้
ี
เอาแผนท่ของถามาเปิดให้ดูให้รู้ว่าใครอยู่ในตาแหน่งไหน ตรงน้กล้องใคร ตรงน้คืออะไร ซ่งทาให้สามารถบรรยาย
�
�
�
ี
แต่กว่าท่จะออกมาเพ่อคัดมาได้ ก็ต้องอาศัยการพูดคุย ภาพสดได้เลย เราได้ทีมงานท่เป็นผู้อาวุโสมาช่วย ทาให้
ี
ื
ี
การฟังคนในพ้นท การคุยกับแหล่งข่าว บางประโยคท ี ่ เนื้องานมัน flow ได้มากขึ้น ส่วนข้างนอกพี่ก็ใช้ไลน์ พี่อยู่
่
ื
ื
ี
แค่ส้นๆ 30 วิหรือ 1 นาท แต่มันเกิดจากการหาข้อมูลท ี ่ กรุ๊ปไลน์เดียวกับพวกหมูป่า เราก็ใช้ไลน์ส่อสารกัน ว่าอะไร
ั
ี
แน่ใจท่สุดว่าถูกต้อง และใช้เทคโนโลยีทุกอย่างท่มันจะม ี ยังไง ใครอยู่ตรงไหน คือเราก็ใช้เทคโนโลยีพวกน้เข้ามา
ี
ี
ี
ื
�
�
ได้ เพ่อมาประยุกต์กับหน้างานก็จะนาไปสู่การนาเสนอ ลดรอยต่อท่เราจะต้องโทรหากัน แล้วโทรไม่ได้เพราะเรา
ึ
ื
�
�
่
ี
ในช่วงข่าวคา รวมถึงการวางประเด็นด้วยว่าวันน้เรามีทีม อยู่ในสตูดิโอ ซ่งมันเป็นวิธีการส่อสารทาให้เราสามารถ
ี
รายงานสด เรามีประเด็นไหนท่ยังขาดตกบกพร่องไป ส่อ หยิบข้อมูลมาใช้ได้เลย ไม่ต้องกรองอีก เพราะบรรณาธิการ
ื
ื
ี
�
ต่างประเทศมองยังไง ปฏิกิริยาจากผู้นารัฐบาลมองยังไง ในพ้นท่สามารถที่จะกรองข้อมูลให้เราได้ จึงไม่มีอะไรมาก
ต้องพยายามจะให้มันมีครบองค์ประกอบ คนเล็กคนน้อย กับการสื่อสาร แต่ว่าในความยากของหน้างาน การจ�ากัด
88