Page 86 - AnnualReport2566
P. 86
ความคาดหวังให้ไทยพีบีเอสปราศจากแรงกดดันจากการหารายได้ สะท้อนถึง ป็ระเด็นทสอง คือ คว�มยงยืนท�งก�รเงิน แมว่าไทยพบีเอสจะไดรับ
่
ี
้
่
ี
ั
้
็
งบประมาณสนับสนุนที่แน่นอนทุกปี แตกยังมีความกดดันในการหารายได้ระดับหนึ่ง จากการสำรวจกลุ่มพนักงาน พบว่า กว่าครึ่งหนึ่งของพนักงาน
่
ทตอบแบบสอบถาม (ร้อยละ 56) เห็นด้วยมาก ว่าไทยพบีเอสมีความจำเป็นต้องเพมช่องทางการหารายได้ โดยในแผนบริหารกิจการประจำป ี
่
ิ
่
ี
ี
์
2566 ว่ามีแผนการหารายได้ในรูปแบบการจัดการทรัพยสินทางปัญญา (Intellectual Property: IP) และการพัฒนาธุรกิจเพื่อสังคม แมว่าเอกสาร
้
่
ิ
การหารายได้ปี 2566 ท่จัดทำโดยฝ่ายยุทธศาสตร์จะระบุรายได้จากทรัพย์สินทางปัญญาและการร่วมผลิตทเพมขนจากปีก่อนหน้า ประมาณ 6.65 ล้านบาท
ี
่
ี
ึ
้
แต่ผลการประเมิน KPI ด้านการหารายได้ ระบว่า ในปี 2566 ส.ส.ท. สามารถหารายไดต่ำกว่าเป้าหมายทกำหนดไว้ อย่างไรกดี อีกด้านหนงของ
้
ึ
่
็
ุ
่
ี
ึ
่
ั
่
ุ
ความยงยืนทางการเงิน คือ การลดรายจ่าย ซงรายงานงบการเงินประจำปี 2566 ระบว่า ส.ส.ท. สามารถลดรายจ่ายในส่วนต้นทุนผลิตและจัดหา
้
ู
้
่
รายการกว่า 13 ล้านบาท ทำให้ค่าใชจ่ายในภาพรวมลดลงจากปีก่อนหน้า จากการสัมภาษณ์ผบริหาร พบว่า เป็นผลจากการขับเคลอนนโยบาย
ื
Digital Transformation และความพยายามในการปรับบทบาทไทยพีบีเอสจาก Content Creator เป็น Content Provider โดยลดสัดส่วนรายการ
ที่ผลิตเองและจัดหารายการจากภายนอกมานำเสนอมากขึ้น อย่างไรกดี ผลสำรวจกลุ่มพนักงาน พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามจำนวนมากไม่เห็นด้วย
็
ว่าไทยพีบีเอสมีแนวทางการลดรายจ่ายทเหมาะสม (ไม่เห็นด้วยเลย ร้อยละ 15.09 และค่อนข้างไม่เห็นด้วย ร้อยละ 30.19) อย่างไรก็ดี พนักงาน
่
ี
์
ทตอบแบบสอบถามร้อยละ 46.36 เห็นด้วยมาก ว่าการหารายได้เชิงรุกโดยการนำทรัพยสินทางปัญญามาต่อยอดสร้างมูลค่า (IP Management)
ี
่
้
ึ
ี
่
ี
เป็นวิธีการทเหมาะสม สะท้อนว่าไทยพีบีเอสมีแนวทางในการหารายได้ทเป็นทยอมรับแล้ว แต่ยังต้องยกระดับการดำเนินการด้านนให้มากขน
่
ี
่
ี
้
ื
่
้
ิ
็
้
่
ี
่
ิ
ึ
ี
ในอนาคต และอาจต้องสอสารกับพนักงานมากขนถึงความจำเป็นในการลดรายจ่ายและแนวทางทจะใช้ ป็ระเดนทส�ม ป็ระสทธิผลด�น Digital
ื
ื
Transformation ในส่วนผลลัพธ์การพัฒนาสอออนไลน์ จากการวิเคราะหข้อมูลการรับฟังทางสอสังคมออนไลน์ (Social Listening) พบว่า
่
่
์
การสร้างการมส่วนร่วม (Engagement)
ี
มียอดรวม 1,613,896,763 ครั้ง
อาทิ จำานวนคนชื่นชอบ (Likes) ทิศทางของความเห็น (Comments)
และจำานวนการรับชม (Views) สื่อออนไลน์ของไทยพีบีเอสในปี 2566 เพิ่มขึ้น 418,588,446 ครั้ง
เพิ่มขึ้นร้อยละ 35 จากปีก่อนหน้า
ี
โดยช่องทางท่สร้างการมีส่วนร่วมมากท่สุด คือ TikTok ซ่งคิดเป็นคร่งหน่งของการมีส่วนร่วมออนไลน์ และมียอดการมีส่วนร่วมเติบโตข้นกว่า
ึ
ึ
ึ
ี
ึ
ร้อยละ 262 จากปีก่อนหน้า และช่องทางออนไลน์ไทยพีบีเอสซึ่งเป็นที่รู้จักของผู้ชมและผู้ฟังมากที่สุด ได้แก่ เว็บไซต์ไทยพีบีเอส และแพลตฟอร์ม
สื่อสังคมออนไลน์ เช่น LINE, Facebook, X (Twitter), YouTube, Instagram, TikTok และ Blockdit
เป็นแพลตฟอร์มที่มียอดผู้ติดตามเพิ่ม
แพลตฟอร์มที่มีจำานวนผู้ติดตาม (Followers) สูงสุด ได้แก่ Facebook และ YouTube ขึ้นสูงที่สุด
ในภาพรวมทุกแพลตฟอร์มของไทยพีบีเอสมีจำานวนผู้ติดตามเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะ TikTok
เพิ่มขึ้นร้อยละ 42 จากปีก่อนหน้า
ื
ำ
ื
ื
นอกจากนี้ส่อออนไลน์ของไทยพีบีเอสยังได้รับความสนใจเม่อเกิดเหตุการณ์สาคัญของประเทศ เช่น ในวันประชุมร่วมของรัฐสภาเพ่อลงมต ิ
เลือกนายกรัฐมนตรีคร้งท่ 1 มียอดการรับชมสดจากทุกแพลตฟอร์มออนไลน์ของไทยพีบีเอสสูงถึง 284,400 คร้ง และยอดการรับชมย้อนหลังรวม
ี
ั
ั
8,037,190 ครั้ง อาจกล่าวได้ว่า การพัฒนาสื่อออนไลน์ของไทยพีบีเอสมีความก้าวหน้าขึ้นในปี 2566
การประเมินด้านประสิทธิภาพ
ำ
ประกอบด้วย ป็ระเด็นแรก ก�รบริห�รโครงก�รและงบป็ระม�ณี ผลการประเมิน KPI ด้านความสาเร็จของการดาเนินโครงการระบ ุ
ำ
คาความสาเร็จเฉล่ยอยในระดับ “ดีมาก” ซงพฒนาจากป 2565 ในทุกมิติ ป็ระเด็นท่สอง คว�มค้มค�ในก�รใช้งบป็ระม�ณี ผลการสารวจ
่
ุ
ำ
ี
่
่
ำ
ี
ู
่
ี
ั
ึ
ึ
ุ
กล่มพนักงาน พบว่า การดาเนินงานตามแนวทาง Digital Transformation ช่วยให้พนักงานทางานได้เร็วข้น (ร้อยละ 55.26 เห็นด้วยระดับหน่ง
ึ
ำ
ำ
และร้อยละ 21.49 เห็นด้วยมาก) ช่วยลดการใช้ทรัพยากรในการทางาน (ร้อยละ 53.30 เห็นด้วยระดับหน่ง และร้อยละ 22.91 เห็นด้วยมาก)
ึ
ำ
ิ
ึ
และช่วยให้องค์กรสามารถลดต้นทุนและเพ่มรายได้ในภาพรวม (ร้อยละ 55.09 เห็นด้วยระดับหน่ง และร้อยละ 13.89 เห็นด้วยมาก) แสดงให้เห็น
ำ
ุ
ถึงความค้มค่าจากการลงทุนเพ่อพัฒนาประสิทธิภาพการดาเนินงาน ซ่งจะเกิดประโยชน์ระยะยาวต่อไปในอนาคต อย่างไรก็ดี รายงานสรุปผล
ื
ึ
ี
การจดซอจดจางของ ส.ส.ท. ป 2566 ระบุว่า มการจดซอจดจางรวมท้งส้น 4,185 โครงการ โดยเกอบทงหมด (4,120 โครงการ หรอรอยละ 98)
ื
ั
้
ื
ั
้
้
ั
ั
้
ื
ื
ิ
้
ั
ี
ั
้
ใช้วิธีจัดซ้อจัดจ้างแบบเฉพาะเจาะจง ซ่งเป็นสัดส่วนท่สูงเม่อเทียบกับส่อของรัฐอย่างกรมประชาสัมพันธ์ (สัดส่วนการจัดซ้อจัดจ้างแบบ
ื
ื
ื
ึ
ื
ี
เฉพาะเจาะจง ร้อยละ 70 ของโครงการทั้งหมดในปี 2566) ถึงแม้ว่าส่วนหนึ่งของการจัดซื้อจัดจ้างแบบเฉพาะเจาะจงจะเป็นการจ้างบริการต่อเนื่อง
ุ
แต่อาจมีผลกระทบต่อระดับการแข่งขันในการจัดซ้อจัดจ้าง ซ่งจะส่งผลต่อประสิทธิภาพของโครงการและความค้มค่าของการใช้งบประมาณ อย่างไรก็ด ี
ื
ึ
จากการสัมภาษณ์ผ้บริหาร พบว่า การประเมินความค้มค่าของโครงการและกิจกรรมเร่มขับเคล่อนอย่างจริงจังในปี 2566 และมีบางโครงการ
ื
ิ
ุ
ู
ี
ำ
ำ
ท่จัดทาต้นทุนต่อหน่วย (Unit Cost) แล้ว และจะมีการเพ่มการประเมินผลกระทบทางสังคมสาหรับโครงการสาคัญในปีต่อไปเพ่อให้ประเด็น
ื
ำ
ิ
ความคุ้มค่าชัดเจนขึ้น
ึ
อน่ง รายงานผลการดาเนินงานประจาปี 2566 ระบุว่า ไทยพีบีเอสมีการประเมินผลตอบแทนทางสังคมของรายการสถานีประชาชนใน 2 กรณี
ำ
ำ
คือ กรณีติดตามการแก้ไขแนวเขตอุทยานฯ ทับซ้อนที่ดินทำากิน จ.นครราชสีมา ซึ่งรายการสถานีประชาชนได้นำาเสนอผลกระทบและประสานงานกับ
ี
ำ
ู
ุ
ื
หน่วยงานท่เก่ยวข้อง นาไปส่การแก้ไขตามมติคณะรัฐมนตรีและสร้างผลกระทบเชิงบวกให้แก่กล่มเป้าหมาย ซ่งพบว่า ทุก 1 บาท ท่ลงทุนเพ่อติดตามกรณ ี
ี
ี
ึ
ู
ดังกล่าว สร้างประโยชน์ทางสังคมมูลค่า 36.69 บาท และกรณีชมรมฌาปนกิจสงเคราะห์ จ.บุรีรัมย์ จากการท่ทายาทผ้เสียชีวิตไม่ได้รับเงินสงเคราะห ์
ี
้
ู
ี
ำ
ำ
ึ
ตามท่กาหนด ซ่งรายการสถานีประชาชนร่วมตรวจสอบและประสานงาน นาไปส่การจ่ายเงินและจดทะเบียนชมรมฌาปนกิจฯ อย่างถูกตอง พบว่า
มีผลตอบแทนทางสังคม 1.21 บาท
THAI PBS ANNUAL REPORT 2566
84 THAI PBS ANNU AL REPOR T 2566 THAI PBS ANNUAL REPORT 2566 85
84